ชมรมคนรักพระเครื่อง
พระกลีบบัวมหาว่านประทานพร เขาอ้อ-ดอนศาลา
ความคิดเห็น 1
จากข้อมูลที่ได้รับมาทั้งด้านหนังสือเอกสารและผ่านการบอกเล่า พระกลีบบัวมหาว่านประทานพร เริ่มสร้างครั้งแรกที่ วัดเขาอ้อ โดย อ.ปาล ปาลธัมโม ประมาณปี พ.ศ.2495-2500 ซึ่งมวลสารประกอบด้วยว่านยาที่ใช้รักษาโรคตามตำราเขาอ้อได้ ด้านหลังองค์พระจะมีอักษรย่อ ข.อ. หมายถึง วัดเขาอ้อ
โดย บก.หนูนุ้ย [4 เม.ย. 2558 , 13:10:47 น.] ( IP = 101.108.97.214 : : )
ความคิดเห็น 2
พระกลีบบัวมหาว่านประทานพร ข.อ. เท่าที่พบเจอมี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ และ พิมพ์เล็ก โดยพระชุดนี้เนื้อหามวลสารจะแห้งแกร่งตามกาลเวลา รายละเอียดหน้าตาพระจะไม่ค่อยเห็นชัดเจน พระบางองค์อาจจะพบร่องรอยการฝนองค์พระเพื่อเอาไปผสมเป็นยารักษาโรคในสมัยก่อน
โดย บก.หนูนุ้ย [4 เม.ย. 2558 , 13:16:28 น.] ( IP = 101.108.97.214 : : )
ความคิดเห็น 3
เนื่องด้วยสมัยก่อนยังไม่มีถนนหนทางสัญจร การเดินทางส่วนใหญ่จะใช้เรือเป็นพาหนะ ดังนั้น เมื่อยามชาวบ้านเจ็บไข้ได้ป่วย การจะเดินทางไปหาหมอค่อนข้างยากลำบากและต้องใช้เวลามาก ดังนั้น วัดเขาอ้อ จึงเป็นที่พึ่งพิงของชาวบ้านในละแวกนั้น ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ โดยใช้สมุนไพรที่มีชุกชมบนเขาอ้อมาทำเป็นยารักษาโรคต่างให้ชาวบ้าน
โดย บก.หนูนุ้ย [4 เม.ย. 2558 , 13:24:08 น.] ( IP = 101.108.97.214 : : )
ความคิดเห็น 4
เมื่อยามเจ็บไข้ได้ป่วยในยามค่ำคืน หรือ อยู่กลางป่ากลางเขา อาจไม่สามารถมารักษาที่วัดได้ทันการณ์ ก็เลยได้มีการทำว่านยาเป็นรูปองค์พระ เพื่อชาวบ้านจะได้นำติดตัวติดบ้านเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ซึ่งมีคนเก่าคนแก่เล่าว่า ว่านยาในองค์พระ ใช้ฝนรักษาสัตว์มีพิษกัด เช่น ตะขาบ งูพิษ เป็นต้น ได้ชะงัดนัก
โดย บก.หนูนุ้ย [4 เม.ย. 2558 , 13:31:33 น.] ( IP = 101.108.97.214 : : )
ความคิดเห็น 5
พระมหาว่านประทานพร นอกว่ามวลสารจะประกอบจากว่านยำตามตำรับเขาอ้อ การสร้างพระยังได้มีพิธีปลุกเสกที่เข้มขลังในถ้ำฉัตฑัณ และ มีคนเถ้าคนแก่เล่าว่า อ.ปาล นั่งบริกรรมคาถาปลุกเสก โดยวางองค์พระไว้ในถาด ถ้าพระองค์ไหนตั้งขึ้น (ลุกขึ้นนั่ง) แสดงว่าธาตุเข้าเต็มแล้ว จึงจะให้เอาไปใช้ได้
พระมหาว่านสร้างครั้งที่ 2 ที่ วัดดอนศาลา ขณะที่ อ.ปาล ไปพักรักษาตัวอยู่ที่ วัดดอนศาลา ระยะหนึ่ง ช่วงประมาณปี พ.ศ.2506-2510 กว่า โดยมีทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก เช่นกัน แต่ด้านหลังจะมีตัวอักษร ศ.ล. หมายถึง วัดดอนศาลาโดย บก.หนูนุ้ย [4 เม.ย. 2558 , 13:39:21 น.] ( IP = 101.108.97.214 : : )
ความคิดเห็น 6
พระมหาว่านประทานพร ศ.ล. องค์พระจะมีรายละเอียดหน้าตาชัดเจนกว่า ข.อ. เนื้อเนียนกว่า (ดินและมากกว่าว่านยา) และเนื้อไม่แกร่งเท่า ข.อ. สามารถแยกแยะเนื้อระหว่าง ข.อ. กับ ศ.ล. ได้ค่อนข้างชัดเจน
โดย บก.หนูนุ้ย [4 เม.ย. 2558 , 13:43:38 น.] ( IP = 101.108.97.214 : : )
ความคิดเห็น 7
พระกลีบบัว ศ.ล. พิมพ์เล็ก เท่าที่พบเจอมีหลายโทนสี เช่น ดำ เทา แดง ขาว ทูโทนเทาดำ เป็นต้น ซึ่งน่าสะสมเป็นคอลเล็กชั่นอย่างยิ่ง
โดย บก.หนูนุ้ย [4 เม.ย. 2558 , 13:46:04 น.] ( IP = 101.108.97.214 : : )
ความคิดเห็น 8
เยี่ยมชม ครับ
โดย oody [4 เม.ย. 2558 , 13:49:28 น.] ( IP = 171.101.144.27 : : )
ความคิดเห็น 9
หลังจาก อ.ปาล มาอยู่ที่ วัดดอนศาลา และ ได้สร้างพระกลีบบัว ศ.ล. ที่ วัดดอนศาลา การสร้างวัตถุมงคลที่ วัดดอนศาลา ก็เริ่มคึกคักขึ้น ต่อมา อ.นำ แก้วจันทร์ ก็ได้สร้างพระกลีบบัวมหาว่านประทานพร ออกมาในเวลาไล่เลี่ยกันไม่นาน
โดย บก.หนูนุ้ย [4 เม.ย. 2558 , 13:51:33 น.] ( IP = 101.108.97.214 : : )
ความคิดเห็น 10
พระมหาว่านประทานพร อ.นำ ชุดนี้ เท่าที่พบเจอมี 4 พิมพ์ คือ กลีบบัวพิมพ์ใหญ่ กลีบบัวพิมพ์เล็ก สี่เหลี่ยมคางหมู และ พิมพ์บาตรน้ำมนต์ ทั้ง 4 พิมพ์ ด้านหลังไม่มียันต์หรือตัวอักษรใดเลย หรือเรียกกันว่า หลังเรียบ
โดย บก.หนูนุ้ย [4 เม.ย. 2558 , 13:54:58 น.] ( IP = 101.108.97.214 : : )
ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็น คำเตือน
- การแอบอ้างใช้ชื่อบุคคลซึ่งอาจทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
- การโพสรูปภาพที่ไม่เหมาะสม หรือ ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
- หากพบเห็นรูปภาพหรือกระทู้ที่ไม่เหมาะสมสามารถเมล์เข้ามาได้ที่ freewebboard@thaimisc.com โดยระบุ subject "กระทู้ไม่เหมาะสม" พร้อมทั้งระบุ ADDRESS ของเว็บบอร์ด