ชมรมคนรักพระเครื่อง

Abuse/แจ้งลบ
ABUSE / แจ้งลบ
Your Email :
Why? !
Security Code

สมัครฟรีเวปบอร์ด | ลงประกาศ ซื้อ-ขายสินค้า | เปิดร้านค้าออนไลน์ฟรี | รับฝากเครื่อง Server
รับทำเว็บ | บริการสร้างเว็บไซต์ | ติดต่อลงโฆษณา


"มหากาพย์แห่งวัดดินดอน และพระเดชพระคุณท่านพระครูสุนทรดิตถคณี ภาค สมบูรณ์"




ในยุคก่อนรูปเหมือนปั๊มของพระเดชพระคุณท่านพระครูสุนทรดิตถคณี เล่นหากันพันปลาย ถึงหมื่นก็มีมาแล้ว และที่พบเห็นในสนามมีอยู่ 3 แบบพิมพ์ หากรวมของเก๊จะเป็น 4 แบบพิมพ์ แต่เหตุที่นักขายไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าอันไหนก่อนอันไหนหลัง หรือรู้แต่ตีลงยุคแรกหมดเพื่อผลประโยชน์ที่ได้มาแค่นิดหน่อย ทำให้ รูปเหมือนปั๊มของพระเดชพระคุณท่านพระครูสุนทรดิตถคณี เป็นที่เล่นยากสำหรับคนที่ไม่ทราบ และบางคนอาจจะละเลยมองผ่านไปอย่างน่าเสียดาย

วันนี้ผมจึง “ย้อนรอย” พระเกจิแห่งขุนเขา ใกล้เชิงเขาหลวง ฝั่งลานสกา กันอีกครั้งครับ เดิมทีกะว่าจะเอาให้สมบูรณ์กว่านี้ แต่มีข้อจำกัดด้านเวลาที่จะเก็บและทำข้อมูล จึงอาจจะยังไม่ครบเครื่อง คงเอาเฉพาะที่พอประมวลได้ กับกระทู้

” มหากาพย์แห่งวัดดินดอน และพระเดชพระคุณท่านพระครูสุนทรดิตถคณี ภาค สมบูรณ์ “

SOLO…http://www.youtube.com/watch?v=UyTMMH9kqaU

โดย (หลวงชา คนป่ายอม) ดูรายละเอียดสมาชิกคนนี้ [17 ก.ค. 2556 , 18:15:15 น.] ( IP = 180.183.78.202 : : ) เก็บกระทู้นี้ไว้ใน Bookmarkส่งกระทู้นี้ให้เพื่อนของคุณแจ้งลบกระทู้
[ 1 ] [ 2 ][ 3 ][ 4 ][ 5 ][ 6 ][ 7 ][ 8 ][ 9 ][ 10 ][ 11 ]

ความคิดเห็น 1

ด้วยวัดดินดอน เป็นวัดที่อยู่ใกล้ละแวกบ้าน ได้ยินเรื่องราวเล่าขานของท่านพระครูมานาน และโดยสายสัมพันธ์แล้วเป็นญาติทางด้านโหม๋เท่เรินอยู่ ด้วย

โดย (หลวงชา คนป่ายอม) ดูรายละเอียดสมาชิกคนนี้ [17 ก.ค. 2556 , 18:18:57 น.] ( IP = 180.183.78.202 : : )

ความคิดเห็น 2

วัดดินดอนตั้งอยู่ใน หมู่ที่ 3 ตำบลท่าดี อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ดินของวัดในปัจจุบันมีเนื้อที่ประมาณ 11 ไร่ 2 งาน 20 ตะรางวา โฉนดที่ดินเลขที่ ๕๘๘ เล่ม ๖ หน้า ๘๘ หมู่ที่ 3 ตำบลท่าดี อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช

โดย (หลวงชา คนป่ายอม) ดูรายละเอียดสมาชิกคนนี้ [17 ก.ค. 2556 , 18:20:04 น.] ( IP = 180.183.78.202 : : )

ความคิดเห็น 3

ที่วัดโดยสภาพทั่วไปตั้งอยู่บนเนินสูง ถัดต่ำมารอบๆวัดจะเป็นชุมชนตั้งอยู่รอบวัด ถัดลงไปอีกจะเป็นที่ลุ่ม และมีคลองขุนน้ำท่าดีล้อมรอบสามด้านคือ ด้านทิศตะวันตก ด้านทิศเหนือ ด้านทิศตะวันออก รูปลักษณ์เป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว

โดย (หลวงชา คนป่ายอม) ดูรายละเอียดสมาชิกคนนี้ [17 ก.ค. 2556 , 18:21:04 น.] ( IP = 180.183.78.202 : : )

ความคิดเห็น 4

ซึ่งสถานที่นี้เองประชาชนที่มาจากต่างถิ่นหรือถิ่นอื่นมักจะเรียกกันว่า “บ้านท่าดี” อันเป็นมูลเหตุของการตั้งชื่อตำบลในปัจจุบันคือ ตำบลท่าดี รอบวัดชั้นล่างนอกจากจะเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านแล้วยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนวัดดินดอน อีกด้วย

โดย (หลวงชา คนป่ายอม) ดูรายละเอียดสมาชิกคนนี้ [17 ก.ค. 2556 , 18:21:59 น.] ( IP = 180.183.78.202 : : )

ความคิดเห็น 5

วัดตั้งอยู่บนเนิน และตั้งอยู่กลางชุมชนวัดดินดอน มีถนนล้อมรอบ ด้านหน้าทางเข้าวัด มีถนนล้อมพร้อมกับบ้านชาวบ้าน ด้านข้างตะวันออกมีถนนล้อม กลุ่มบ้าน และโรงเรียนวัดดินดอน แหล่งเรียนรู้ของชุมชนด้านข้างทิศตะวันตก มีถนน และกลุ่มบ้าน ด้านทิศเหนือหลังวัด ถนนชิดรั้ววัด บ้านชาวบ้าน เห็นเมรุอยู่กลางชุมชน ไม่เป็นที่รังเกียจ ของชาวบ้านแต่ประการใด

โดย (หลวงชา คนป่ายอม) ดูรายละเอียดสมาชิกคนนี้ [17 ก.ค. 2556 , 18:23:23 น.] ( IP = 180.183.78.202 : : )

ความคิดเห็น 6

ชุมชนดินดอน เป็นชุมชนโบราณ บริเวณนี้เป็นตลาดเก่าที่เคยเจริญในอดีต ครึกครื้นมาแต่ก่อนเก่า และอยู่ติดกับวัด ยังคงความเก่าให้เห็น

บ้านโบราณ แสดงให้เห็นการตั้งชุมชนมาแต่โบราณ และยังคงให้เห็นถึงวิถีชุมชน ฝีมือในงานศิลปะ เชิงช่างในการสร้างบ้านเรือนในยุคก่อน


ภาพบนเป็นกุฏิเก่าของท่านพระครู งเป็นงานสร้างบ้านของคนยุคเก่าๆที่เน้นกนกงดงาม ตอนหลังกุฏินี้ถูกรื้อ จนไม่มีสภาพเดิมให้เห็นสร้างที่ตั้งรูปเหมือนของท่านแทนขึ้นมา

โดย (หลวงชา คนป่ายอม) ดูรายละเอียดสมาชิกคนนี้ [17 ก.ค. 2556 , 18:27:06 น.] ( IP = 180.183.78.202 : : )

ความคิดเห็น 7

การสร้างวัดไม่สามารถสืบค้นได้ว่าใครเป็นผู้ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดสร้าง เพียงแต่เล่าต่อๆกันมาว่าประมาณปี พ.ศ.๒๑๒๕ ในสมัยรัตนโกสินทร์ราวแผ่นดินรัชกาลที่ 3 โดยชาวบ้านท่าดีร่วมกันสร้าง เพื่อใช้เป็นสถานที่ ประกอบบุญทางพระศาสนา เจ้าอาวาสและพระสงฆ์วัดดินดอนส่วนมากจึงเป็นบรรพบุรุษของชาวท่าดี และเป็นเครือญาติกัน

โดย (หลวงชา คนป่ายอม) ดูรายละเอียดสมาชิกคนนี้ [17 ก.ค. 2556 , 18:28:29 น.] ( IP = 180.183.78.202 : : )

ความคิดเห็น 8

และอายุวัดพอสันนิษฐานได้จากต้นทวดมังคุด 2 ต้นที่ยังหลงเหลืออยู่หลังจากมหาวาตภัยเมื่อปี พ.ศ.2505 ซึ่งต้นทวดมังคุดมีอายุประมาณ 300 ปี

โดย (หลวงชา คนป่ายอม) ดูรายละเอียดสมาชิกคนนี้ [17 ก.ค. 2556 , 18:29:35 น.] ( IP = 180.183.78.202 : : )

ความคิดเห็น 9

ลำดับเจ้าอาวาสวัดดินดอน
1.พ.ศ.2305 สมภารปาน หรือพ่อท่านในบัว
2. พ.ศ.ไม่ทราบแน่ชัด ท่านสมภารนาค
3. พ.ศ.ไม่ทราบแน่ชัด ท่านสมภารนา
4. พ.ศ.ไม่ทราบแน่ชัด ท่านสมภารเกลื้อม
5. พ.ศ. 2445 ท่านสมภารแดง
6. พ.ศ.2472 ท่านสมภารเกลี้ยง
7. พ.ศ.2472-พ.ศ.2512 ท่านพระครูสุนทรดิตถคณี
8. พ.ศ.2512 – พ.ศ. 2536 พระครูวินิจศิริธรรม (ช่วย ฐานิสสโร)
9. พ.ศ.2536 – ปัจจุบัน พระมหาอำนวย มหาปัญโญ

โดย (หลวงชา คนป่ายอม) ดูรายละเอียดสมาชิกคนนี้ [17 ก.ค. 2556 , 18:31:11 น.] ( IP = 180.183.78.202 : : )

ความคิดเห็น 10

ผมจะขอเล่าประวัติอดีตเจ้าอาวาสวัดดินดอนในแต่ละองค์คร่าวๆ เรียงตามลำดับที่พอจะสืบค้นได้ ดังต่อไปนี้ ครับ

1.พ.ศ.2305 สมภารปาน หรือพ่อท่านในบัว
ในอดีตมีเจ้าอาวาสวัดดินดอนรูปหนึ่งชื่อปาน เป็นพระสงฆ์ที่เชี่ ยวชาญวิปัสสนากรรมฐานและวิทยาคม มีพลังจิตและตบะแก่กล้า มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เลื่องลือกันอย่างมาก เมื่อสมภารปานมรณภาพแล้ว ชาวบ้านที่ศรัทธา ได้สร้างสถูปเพื่อบรรจุอัฐิไว้เป็นที่สักการบูชา สำหรับสถูปที่บรรจุอัฐิพระสงฆ์แบบนี้ทางภาคใต้เรียกว่า “บัว” ชาวบ้านต่อมาจึงเรียกสมภารปานว่า พ่อท่านในบัว และนับถือสถูปหรือบัวที่บรรจุอัฐิของท่าน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาจนกระทั่งทุกวันนี้ ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของพ่อท่านในบัวก็เคยแสดงอภินิหารให้ชาวบ้านได้พบเห็นกันบ่อย ๆ ใครมีเรื่องเดือดร้อนหรือทุกข์ยากอะไร ก็จะพากันมากราบไหว้ขอความช่วยเหลือจากพ่อท่านในบัวอยู่เสมอ
สมภารปานหรือพ่อท่านในบัว เกิดที่บ้านปากปริก ปัจจุบันอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลท่าดี อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช บวชกับใครที่ไหน ไม่สามารถสืบค้นได้ แต่เมื่อบวชเรียนแล้วได้ฝึกจิตเจริญสมาธิและฝึกวิปัสสนากรรมฐานอย่างเคร่งครัด จนเกิดผลอภินิหารเลื่องลือยิ่งนัก เจ้าพระยานคร (น้อย) ได้เห็นความสำคัญความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ท่าน จึงถวายบัวเป็นแท่งดินเผาทำแบบสมัยศรีวิชัย เมื่อท่านมรณภาพจึงเอาอัฐิของท่านบรรจุไว้ในเจดีย์ และมีบัวดินเผาครอบบน ชาวบ้านจึงเรียกท่านว่าพ่อท่านในบัว จริงๆแล้วคือ สมภารปานนั้นเอง เจดีย์พ่อท่านในบัวยังแผ่อภินิหารคุ้มครองและเป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้ มีผู้เฒ่าผู้แก่ในยุคก่อนเล่าเป็นเสียงเดียวกันว่า หลังจากท่านมรณภาพแล้ว หรือประมาณ 100 กว่าปีที่ผ่านมาว่า มีช้างหลวงของเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เกิดตกมันดุร้าย ชื่อ พลายตักจัน เที่ยวอาละวาดพังบ้านเรือน กุฏิและวิหารไม่เลือก เดือนร้อนกันไปทั่วท้องที่ ชาวบ้านไม่มีอันจะทำมาหากิน ถูกช้างแทงและฟาดตายเสียก็หลายคน

และสถานที่หนึ่งที่ควรจะกล่าวถึงคือ พระอุโบสถวัดปะ หรือในปัจจุบันเรียกว่า วัดปะธรรมมาราม เป็นโบสถ์มหาอุด คือ มีเฉพาะประตูทางเข้า ซึ่งเล่ากันว่าตอนนั้นมีงานบวชนาค พลายตักจัน ล่องขึ้นมาตามลำคลองท่าดี จากบ้านชันล่าง ไปขึ้นไปเรื่อย ถึงวัดไสขิง จนถึงวัดปะ และพลายตักจันบุกเข้าไปเอางาแทงที่ประตูพระอุโบสถ จนยังมีรอยจนในปัจจุบัน

และพลายตกจันล่องขึ้นไปตามสายน้ำท่าดีจากวัดปะ ไปถึงท่าวัดวอ จนเลยไปถึงวัดดินดอน อันเป็นวัดที่สถิตของท่านในบัว และเมื่อพลายตักจันไม่เหยียบเข้าไปเลย และเมื่อจะผ่านไปทางนั้น ต้องลงเดินท่องน้ำในคลองทุกคราว และทุกครั้งพอผ่านตรงหน้าวัด ก็ยกงวงทุกคราหันมาหน้าวัด แสดงความเคารพ ชาวบ้านเห็นเช่นนั้นต่างตื่นเต้นในบารมีของท่านในบัวยิ่งนัก หอบลูกจูงหลานเข้ามาอาศัยกันอย่างเนืองแน่น และปลอดภัย ตลอดเวลาที่พักอาศัยใครเดือดร้อนและวิตกอย่างไร ก็ออกชื่อพ่อท่านในบัวกันตลอดและสมปรารถนาทุกราย แม้แต่หนังตะลุงมโนราห์ เมื่อเดินผ่านวัดจะต้องหยุดและประโคมเครื่องดนตรีถวายก่อนจึงจะเดินเลยไป

โดย (หลวงชา คนป่ายอม) ดูรายละเอียดสมาชิกคนนี้ [17 ก.ค. 2556 , 18:35:56 น.] ( IP = 180.183.78.202 : : )
[ 1 ] [ 2 ][ 3 ][ 4 ][ 5 ][ 6 ][ 7 ][ 8 ][ 9 ][ 10 ][ 11 ]

ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็น
จาก : *
Code :
กรุณากรอก Code ตัวเลขด้านบน *
อีเมล์ : หากไม่ต้องการให้เว้นว่าง
Your Photo : ไม่เกิน 150KB
ยินดีให้รูปประกอบนี้ ไปให้บริการ ส่งรูปภาพเข้ามือถือ ยินดี ไม่ยินดี
บริการใหม่!! รับฝาก File ฟรี!
รายละเอียด :
Icon Toy
Special command
Register User
Login User

* *
กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว.... 

คำเตือน
  • การแอบอ้างใช้ชื่อบุคคลซึ่งอาจทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
  • การโพสรูปภาพที่ไม่เหมาะสม หรือ ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
  • หากพบเห็นรูปภาพหรือกระทู้ที่ไม่เหมาะสมสามารถเมล์เข้ามาได้ที่ freewebboard@thaimisc.com โดยระบุ subject "กระทู้ไม่เหมาะสม" พร้อมทั้งระบุ ADDRESS ของเว็บบอร์ด